วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

มาแล้ว! ร็อกเกอร์แห่งวงการนักเขียนอาหาร


Medium Raw : A Bloody Valentine to the World of Food and the People who Cook
โดย แอนโธนี เบอร์เดน
304 หน้า
สำนักพิมพ์บลูมส์บูลี่


เป็นเวลาสิบปีแล้วที่คิตเช่น คอนฟิเดนเชียล ของแอนโธนี เบอร์เดน เขย่าวงการอาหารสั่นคลอน ด้วยหนังสืออาหารในรูปแบบที่ไม่มีใครเขียนมาก่อน และมันก็เป็นหนังสือเล่มที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเขารวบรวมเศษเสี้ยวชีวิตเชฟในนิวยอร์ก ทั้งที่ เลย์ ฮอล์ส หรือ ซัปเปอร์ คลับ อ่านแล้วคล้ายกับไปทัวร์ของวงเดอะ โรลลิ่ง สโตนส์ ที่ตระเวนเปิดการแสดงในปี 1972 เขาบรรยายชีวิตที่เต็มไปด้วยความกดดันสูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยร้อยแก้วมุกตลกหยาบโลน ทำงานเหนื่อยเหงื่อหยดแหมะ เลือดตกยางออก พิมพ์ลายนิ้วมือ ดื่มหนักทั้งคืนกับคนทำงานในครัว ซึ่งเป็นการทำงานเพื่อใช้ชีวิตจริงๆ เปิดให้ผู้อ่านเห็นโลกของการเป็นเชฟ ที่หนักหน่วง ไม่ได้สวยหรู เหมือนมาร์ธา สจ๊วต บนหน้าจอโทรทัศน์ ผู้อ่านจึงร่วมความรู้สึกไปพร้อมๆ กับข้อเขียนของเขา กับกลุ่มแก๊งค์คนทำอาหารที่เท่ ดิบเถื่อนได้ใจ (คล้ายวงการมาเฟียยังไงยังงั้น)

วันนี้หนังสือเล่มใหม่ของเขา "Medium Raw" (ระหว่างนี้ เขาก็เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม) ทว่าไม่มีเล่มใดที่ดำเนินรอยตาม คิตเช่น คอนฟิเดนเชียล เล่มนี้ดูจะคล้ายคลึงมากที่สุด แม้ว่าแตกต่างในรายละเอียด กล่าวคือ เบอร์เดนอายุ 50 ปี แล้ว เลิกยา เป็นพ่อคน ความเฮี้ยนๆ ของเขาสลายไปหมด แม้ว่าภาษายังคงความดิบไว้ ทว่าขอบเขตทางภาษา ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงความมันส์-ห้าว เชื่อมต่อเนื่อง เหมือนคิตเช่น คอนฟิเดนเชียล จึงไม่ถือเป็นหนังสือภาคต่อมาทั้งหมดทั้งปวง

มีเดียมรอว์ ดูเหมือนมีความหลากหลายด้านรูปแบบการนำเสนอ เบอร์เดนสอดแทรกตัวเขาเข้าไปในหลายๆ แขนงในวงการอาหาร ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับตำแหน่งของเขาด้วยความระมัดระวัง ให้นิยามตัวเองว่า เป็นอะไรและไม่ได้เป็นอะไร ถ้าสิ่งไหนที่เขาทำไม่ได้ ก็จะอธิบายอย่างกระจ่างชัด พอๆ กับสิ่งที่เขาเป็น ทว่าสิ่งที่ชัดเจนที่สุดในบรรดาข้อเท็จจริงทั้งหมด นั่นคือ เบอร์เดนไม่ได้ประกอบอาชีพเชฟมืออาชีพอีกต่อไปแล้ว ทว่ากลับเป็นนักเขียนอาหารมืออาชีพแทน เพราะตั้งแต่แขวนชุดขาวเพื่อท่องโลก (เขาเรียกตัวเองว่า "Freaky" แปลว่า แปลกและน่าสะพรึง) แล้วคิตเช่น คอนฟิเดนเชียล ก็ประสบผลสำเร็จ นั่นเพราะเขาใช้ชีวิตโชกเชี่ยวประสบการณ์ในครัว

ในเนื้อหาสาระที่มีเดียม รอว์ เสนอ เบอร์เดนไม่ได้อยู่ในวินัยเชฟอีกต่อไป กลับไปอยู่ในจอแก้ว รื้อโครงสร้างรายการอาหารแบบเก่าๆ ที่ดูปลอมๆ เสียกระจุย (เขาเคยกล่าวไว้ ในคิตเช่น คอนฟิเดนเชียล ชิ้นเนื้อของเขาที่คอยห่วงนิ้วของเพื่อนร่วมงานว่าจะโดนไฟลวกหรือไม่ หรือ "อย่าแตะจู๋ของผม แล้วก็อย่าแตะมีดของผม" หรือ ความเกลียดพวกมังสวิรัติเป็นการส่วนตัว)ทว่า เขาอธิบายวงจรความโง่สุดๆ ของ Food Network (ช่องรายการอาหารชื่อดังของสหรัฐอเมริกา) หรือ ข้อเท็จจริงเรื่องการต่อสัญญา ของราเชล เรย์ เบอร์เดนเล่าเรื่องวงการอาหารและวงการนักเขียนอาหาร และการเป็นนักเขียนอาหารได้อย่างเข้าอกเข้าใจ คาดว่าอีกไม่นานก็คงมีฉบับแปลเป็นภาษาไทยตามมา เหมือนเช่นคิตเช่น คอนฟิเดนเชียล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น