วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เวลาชา


กาลครั้งหนึ่งนานแล้วนะ ในหมู่บ้านห่างไกลฝูงชน ชื่อว่าหมู่บ้านปลาคาร์ฟ ที่ชื่อน่ารักน่าเกลียดอย่างนั้นนั่นน่ะ ก็เพราะปลูกดอกทานตะวันพันธุ์แปลกสีเหมือนปลาคาร์ฟเต็มลานหมู่บ้าน เหตุผลก็มีเท่านี้
หมู่บ้านขนาด 12 ครัวเรือน จัดว่าเล็กมากๆ สุดปลายท้ายซอย ที่กระท่อมทรงคล้ายดอกเห็ดริมแม่น้ำ เป็ดเชอร์รี่และไก่ต๊อกเดินเพ้นพล่าน พลางจิกรำข้าว หัวเหอก้มๆ เงยๆ ขึ้น-ลงจากพื้นดินเป็นจังหวะ ดังก่อก...ก๊อก...ก่อก...ก๊อก ช่างดูเหมือนเป็ดไก่เห็นแก่กินเห็นๆ
ในบ้านหลังนั้น คุณยายผมขาวโพลนนอนยืดขายาว ปลายเท้าตั้งตรงดิ่งเหมือนคนยืนเคารพธงชาติอยู่บนเตียงไม้โอ๊ก เด็กหญิงกระโปรงบานสีชมพูช็อกกี้ พิงก์ วนเวียนทำอะไรอยู่นั่น
อ่า-ฮ้า หนูน้อยยืนตัวตรงดิ่ง มือไม้ป่วนชงชาให้คุณยายในมุมน้ำชา...มุมที่ละเมียดตบแต่งได้สวยที่สุด เก่าแก่ที่สุด ให้จินตนาการถึงเครื่องเรือนในเวลาน้ำชาสมัยพระเจ้าชาร์ลที่สอง ยุคที่หญิงสาวใส่กระโปรงสุ่มผ้าแวววาว ทั้งยังดูฟูฟ่อง ถือร่มลายลูกไม้ ล้อมวงจิบน้ำชา อืม...ประมาณอย่างนั้นนั่นแหละ
“รินน้ำร้อนจากกาน้ำร้อนเหล็กวิคตอเรียนแสนเก๋ ทิ้งไว้สักครู่ห้ามคน ชักถุงชาผ้าไหมออก เติมน้ำผึ้งนิดหน่อย ใส่เลมอน 1 แว่น เสร็จแล้วค่ะ น้ำชาสูตรคุณยาย”
หนูน้อยส่งถ้วยน้ำชาที่ประมูลจากพิพิธภัณฑ์ในปารีสให้ยายเฒ่าที่นอนราบแหงอยู่
“อ่า...อื่มมม รสดีจริงๆ วันนี้หนูชงชาอะไรให้ยายจ๊ะ” ยายจ้องน้ำชาสีเหลืองคล้ายดอกแดฟโฟดิลล์ เลมอนฝานจมหายใต้ก้นถ้วย เวลายายอิ่มเอิบ สีหน้าจะเปล่งประกายระยิบระยับ แม้ในยามร่างกายซูบเซียว อ่อนแอแบเบลอไร้กำลัง
หลานสาวใช้นิ้วชี้ม้วนผมเล่น ตอบคุณยายอย่างอายๆ “แฮริสัน ครอสฟิลด์ เอ็กซ์โซติก ไวต์ ที ออเร้นจ์ แอนด์ แมงโก้ คุณยายขาแล้วนี่มาการองสีชมพู้...ชมพูของคุณยายค่ะ หรือคุณยายจะรับช๊อกโกแล๊ต ทรัฟเฟิล” หนูน้อยยิ้มหวานจับใจ
“ทั้งสองอย่างก็ได้จ้ะ หนูชงมารียาจ ดาร์จีลิง เพิ่มให้ยายอีกสักถ้วยนะจ๊ะ”
“ได้เลยค่ะ ทำไมคุณยายจึงชอบน้ำชาจังเลยเล่าค่ะ” หลานสาวชักสีหน้าสงสัย พยายามม้วนเครื่องหน้าบนใบหน้าให้หยิกกว่าผมเป็นลอนของหล่อน
เง็งๆ
ใบหน้าคุณยายเอียงอาย พยายามจะให้เลือกฉีดสีหน้าแดงดูสุขภาพดี แต่ทำได้ที่ไหน ยายอายุปาเข้าไปเกือบร้อยแล้ว “หลานก้อ เรื่องยาวนะจ๊ะ หนูอยากฟังเหรอ” ยายถามหลานด้วยทีท่าอมพะนำอย่างไม่ค่อยอยากบอกอะไรเท่าไหร่
“หืมมม อยากฟังมากๆ ค่ะ” หล่อนเบิกตาโต ดวงตากลมแป๋วแหววทำยายใจอ่อน
“เรื่องมีอยู่ว่า...เมื่อก่อนเมื่อไร จำไม่ได้นะจ๊ะ ยายเด็กมาก แล้วไม่ค่อยสุงสิงกับคนอื่น ความที่ยายพูดน้อย และคุณพ่อคุณแม่ก็เลี้ยงยายให้อยู่กับผู้หลักผู้ใหญ่เสมอมา ยายจึงไม่ค่อยมีเพื่อนเป็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งยังไม่ค่อยได้รับอนุญาตให้ออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ได้อย่างคนอื่น ครั้นพอมีงานเลี้ยงน้ำชาที่โรงแรมเปิดใหม่ยุคนั้น น่าจะเก่าแก่ในยุคนี้ ยายได้รับบัตรเชิญสม่ำเสมอ เป็นหญิงสาวคนแรกๆ ที่ถอดผ้าถุงไว้ที่ตะกร้าที่บ้าน ใส่กระโปรงบาน เสื้อเบร๊าส์ รองเท้าคัชชู นั่งจิบชากับกลุ่มเพื่อนสาวรุ่นราวคราวเดียว และหนุ่มๆ จากโรงเรียนพลทหารบ้างบางครั้ง ยายได้พบท่านตาของหลานก็ที่นั่นแหละ จิบชานม จุ่มสโคนครั้งแรกก็ตาของหลานแหละที่สอนให้ยายทำ หลังๆ ยายก็มีโอกาสติดสอยห้อยตามเจ้านายไปเรียนเมืองนอกเมืองนา เรียนทำขนม ชงชา แล้วกลับมาเปิดร้านที่บ้าน ตาเขาเป็นลูกค้าประจำ มาถึงก็เดินเข้าร้านสั่งชาเย็น ปากก็พร่ำบอกว่าน้ำเชื่อมในน้ำชายังไม่หวานเท่าหน้ายาย
ยายทำหน้าเขินอีกแล้ว ไม่มีเลือดฝาดเช่นเดิม
“อยู่ๆ วันหนึ่งตาแกก็ใส่ดอกไม้ในกาน้ำชา คุกเข่าขอแต่งงานกลางร้าน คนก็เยอะแยะ อายก็อาย เขินก็เขิน เอาไงเอากัน ก็ตอบตกลงไป สมัยนี้เขาเรียกว่า เซย์ เยส ใช่ไหมจ๊ะ”
“ใช่คร้า”
“”พอถึงงานเลี้ยงแต่งงาน ทางครอบครัวยายก็เลี้ยงผู้หลักผู้ใหญ่วันหนึ่ง อีกวันก็เลี้ยงน้ำชาเพื่อนฝูงของยายกับของตา หลังจากแต่งงานร้านน้ำชาก็ยิ่งขายดิบขายดี ไม่เคยขาดทุน ถือเป็นร้านอันดับหนึ่งในยุคนั้น ยายจึงผูกพันกับชามากที่สุด ให้ยายหลับตาดมกลิ่น ยายยังรู้เลยว่ามันเป็นชาอะไร แต่ตอบยี่ห้อไม่ได้นะ สมัยนี้อะไรต่ออะไรออกมาใหม่ก็แยะ ชาสายพันธุ์แปลกๆ ก็แยะ
“ยิ่งหลานเกิดเวลาบ่ายแก่ๆ ตรงกับเวลาไฮที เพราะงี้แหละจ่ะ ยายจึงตั้งชื่อหลานรักของยายว่า ‘น้ำชา’ ไว้ให้หลานมาชงชาให้ยายดื่มตอนแก่งอมไงล่ะ” ยายเฉลย
ในขณะลมเพพัดเอื่อยๆ ลอดจากชองหน้าต่างที่เปิดแง้ม ยายมองทอดสายตายาวออกไปก็เห็นต้นกก ต้นอ้อ แทงยอดสูงปลิวล้อลม ลำต้นเสียดสี
“ปิดหน้าต่างทีสิลูก ประเดี๋ยวละอองหญ้าคันๆ เข้ามา” ยายบอกพลางวางถ้วยน้ำชาลงบนถาดกระเบื้องเคลือบลายดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋ม
ยายหลานกอดกันกลมเกลียว เห็นแล้วเหมือนเพรสเซลของป้าแอน อร่อยดีเหมือนกัน เวลากินคู่กับอิงลิชเบรกฟาส์ต ที
ไออานุภาพของความรัก
รสชาติที่แสดงอานุภาพความอบอุ่น
จากเครื่องดื่มที่สุดแสนคลาสซี่ ทันสมัย ไฮแอนด์ ไม่เคยล้ายุค
ที่เรียกว่า “น้ำชา”

บอกฉันบอกเธอ
สิ่งใดๆ ก็มีความทรงจำ มีความหมายซ่อนอยู่ในสิ่งนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น