วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

มะกรูดกับมะนาว


นานมาแล้วที่สองตระกูลใหญ่แห่งไร่กลิ่นรสเกิดข้อพิพาทว่าด้วยการแบ่งแยกดินแดน แต่เดิมไร่กลิ่นรสผลิตข้าวบาร์เลย์มาเนิ่นนาน แต่แล้วเมื่อเจ้าของที่ดินเปลี่ยนมือผู้ถือกรรมสิทธิ์ยึดครอง เจ้าของไร่คนใหม่ผู้ยากจนจึงเปลี่ยนพืชผลที่ปลูกเป็นสมุนไพรและผลไม้ราคาสูง เป็นสวนตามความใฝ่ฝัน โดยแบ่งที่ดินเป็น 2 ส่วน เท่าๆ กัน ส่วนแรกยึดผลไม้ตระกูลซีตรัสเป็นหลัก ที่เหลือปลูกพืชตระกูลมินต์
วันหนึ่งเกิดภัยจากศัตรูภายนอกอาณาเขต กองทัพเพลี้ยรุกรานกัดกินพืชผล ลูกหลานของทั้งสองตระกูลได้รับความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เจ็บหนักและล้มตาย กว่าจะพ้นวิกฤตการณ์ต้องรอกำลังจากยาฆ่าเพลี้ยหลายถังสลายม็อบเพลี้ยที่ฮึกเหิม เจ้าของไร่รู้ดีว่าผลผลิตคราวนี้เหลือน้อยเต็มที ราคาค่าฆ่าแมลงก็ต้นทุนสูง หากกองทัพเพลี้ยกลับมาอีกครั้ง มีหวังขาดทุน
“แม่...เพลี้ยมาคราวหน้าคงต้องล้มไร่นี้ในไม่ช้า ดันทุรังปลูกต่อไปมีหวังตายแน่ๆ” ชายชาวสวนบอกภรรยาผู้เป็นที่รัก
สเปียร์มินต์ใบหยักยืนต้นในละแวกนั้น ได้ยินเช่นนั้นเข้าถึงกับสะดุ้งตัวโหยง รอยหยักไหวพลิ้วทั้งๆ ที่ยังไม่มีลมพัด รีบรุดคาบข่าวไปบอกคนในตระกูล
เลมอนสุกหล่นจากต้นไม่ไกลเส้นแบ่งอาณาเขตได้ยินเช่นเดียวกัน ก็รีบเด้งอ้าว ประกาศให้ญาติพี่น้องรับรู้
“เจ้าข้าเอ้ยๆ เจ้าของสวนกำลังกวาดล้างพวกเราในไม่ช้า พร้อมๆ กับตระกูลฝั่งโน้นด้วย…
“ทำอย่างไรดี ลูกหลานที่เหลือรอดจากการบุกโจมตีของกองทัพเพลี้ย ยังลูกเล็กอยู่เลย พวกเขากำลังจะไม่มีอนาคตเชียวนะ พืชตระกูลเราเป็นผลไม้ให้รสชาติ ดำรงชีวิตเพื่อสร้างความหฤหรรษ์รสลิ้นให้มนุษย์มานานแสนนาน เราจะยอมให้พวกเพลี้ยน่าโง่ ทำลายความภาคภูมิใจได้หรือ พวกเราไม่ยอมๆ” เลมอนลูกสีเหลืองแมลงกัดทิ้งร่องรอยไว้บนเปลือกต้นเสียงกำลังปลุกระดม ส้ม เกรปฟรุ๊ต มะนาว ส้มโอ อั๊กลี่ ยูซุ ส้มแมนดาริน ซีธง คาลาแมนซี มะนาวแมนดาริน
“พวกเราไม่ยอม ไม่ยอมๆ” ทุกเสียงร้องลั่นสนั่นสวน
ฝ่ายตระกูลมินต์ เมื่อได้ยินอีกฝั่งโห่ร้อง
“เห็นไหมข้าไม่ได้โกหก เชื่อขนมให้ดมปากสาบาน ก็ไม่มีใครกล้าดม โน่นน่ะ! ฝ่ายโน้นยังรู้เรื่องเลย” สเปียร์มินต์ผู้กำลังต่อล้อต่อเถียง เย้ยแอปเปิ้ลมินต์ที่หาว่าเขาโกหก
“เออๆ ขอโทษก็ได้ ก็เห็นชอบโกหกจนปากหอม ใครจะยอมเชื่อง่ายๆ ล่ะ เอาล่ะ! พี่น้อง เราควรทำอย่างไร ให้สวนมินต์ไม่ตายหายไป”
“พวกเราไม่ยอมๆ” เสียงจากวอเตอร์ มินต์ กู่ร้องด้วยเสียงทุ้มยักษ์นำเสียงอื่น
หลังจากนั้นทั้งสองตระกูลจึงรีบผลิตดอกออกผลจนลูกใหญ่เป้ง เป็นที่ภาคภูมิใจและดีใจให้กับชาวสวน
ทว่า จู่ๆ ฝูงอีกาที่มาจากภูเขาจายำลูก้าในทวีปแอฟฟริกา ก็เกิดเป็นปลื้มพืชผลสีสวยสุกปลั่ง
“พวกเราจะกินอะไรดีหนอ ระหว่างพวกซีตรัสกับพวกมินต์”
ส้มโอ ผลไม้ผู้มีหูทิพย์ได้ยินเสียงปรึกษาระหว่างฝูงอีกา ร้องตะโกนตอบว่า “กินพวกมินต์สิ ลิ้นพวกเจ้ากินอะไรก็เหมือนกันแหละ เราเป็นอาหารเลิศรสของพวกมนุษย์”
ใบเบอร์กาม็อต ต้นสูงเสียดฟ้าได้ยินเช่นกัน ตอบโต้ว่า
“พวกเจ้ากินพวกเราก็โง่เต็มที พวกเราไม่มีน้ำมีเนื้อมากอย่างพวกซีตรัส กินเข้าไปหมดไร่พวกเจ้าก็ไม่อิ่ม”
จ่าฝูงอีกาผู้โฉดชั่วได้ยินเช่นนั้นก็ชั่งใจ
เอ่...ปรกติชาติกาตัวดำใจดำอย่างเราก็ไม่ได้เป็นกาดีอยู่แล้ว เพื่อรักษาเกียรติยศของวงศ์ตระกูล ทำไมเราต้องทำผิดวิถีกา ปกป้องอาหารชั้นเลิศของมนุษย์ ใบเบอกาม็อตพูดถูก กินพวกซีตรัสเป็นอาหารอิ่มท้องกว่า
“เอาล่ะ! พวกข้าตัดสินใจได้แล้วว่า เราควรบุกกินพวกซีตรัส ลุย!!!”
กาฝูงใหญ่รุกไล่กัดกินผลไม้ ทว่าชาวสวนเจ้าของไล่ กวาดพลพรรคนักแม่นปืนไล่ยิงกาล้มระนาว ฝูงกาแตกกระเจิงรีบถอยทัพ กำลังอ่อนล้าค่อยๆ กระพือปีกกลับแอฟริกา
หลังจากนั้น พวกซีตรัสเจ็บแค้นและจ้องจะเอาคืนตระกูลมินต์มาตลอด รุ่นผ่านรุ่น ปลูกฝังให้เกลียดชังกันและกัน แม้กิ่งใบ หรือผลเน่ากลิ้งเข้าอาณาเขตก็จะเกิดสงครามทันที
“นี่แน่ะๆ เอาส้มเน่าของแกคืนไป” จิงเจอร์มินต์ขว้างส้มสีขุ่นช้ำ และสั่งให้พวกพ้องสลัดใบรกหล่นพื้นไปอีกอาณาเขต
“มันมากเกินไปแล้วนะ” ยูซุ เพื่อนรักของส้ม ระเบิดอารมณ์ สั่งให้มะนาวลูกเล็ก โน้มกิ่งส้มแมนดารินยิงไปที่เป้าหมายหวังให้กิ่งอีกฝ่ายหัก
กระทั่งชาวสวนเดินมา สงครามจึงหยุด เพราะชาวสวนประกาศกร้าวว่า
“ถ้าพวกเจ้าเกเร ข้าจะเปลี่ยนมาปลูกสตรอว์เบอร์รี่”
คำขู่นั้นสร้างความกลัวให้แก่ทั้งสองฝ่าย จึงยุติพักสงครามใหญ่ หากมีการกลั่นแกล้งเล็กน้อยตามประสาบ้านใกล้เรือนเคียงที่ไม่ถูกกัน
และนี่คือทั้งหมดของตำนานความเกลียดชังระหว่างตระกูลมินต์และตระกูลซีตรัส
ทว่า เรื่องยังไม่จบแค่นั้นแน่ หากประวัติศาสตร์ยังไม่จารึกโศกนาฏกรรมรักนอกธรรมเนียม

10 ปีผ่านไป อะไรๆ ในฟาร์มก็เจริญก้าวหน้าตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ทว่าจิตใจอาฆาตแค้นของทั้งสองตระกูลยังเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ในโลกนี้ก็ยังมีช้างเผือกดุร้ายและงูเห่าไม่กัดคน แล้วทำไมเล่าถึงไม่มีคู่รักระหว่างตระกูลคู่แค้น เฉกเช่น โรมิโอและจูเลียต ไม่ได้
“เตรียมกระโดดน้ำนะ” มะกรูดลูกใหญ่ กลิ่นหอมฟุ้งบอกมะนาวแป้นเปลือกบางลูกเล็กๆ
“สูงจังเลย เรากอดแล้วกระโดดพร้อมกันนะ…นะ” มะนาวลูกนี้มีน้ำเยอะ เสียงจึงหวานชวนฟัง มะกรูดไม่มีแขนจึงเอาพุงใหญ่ชนพุงมะนาว แม่มะนาวลูกเล็กหลับตาปี๋
ตู้ม!
ในบ้านมะนาวผู้ทรงอิทธิพลด้านการเงินของตระกูลซีตรัส กำลังตามหาลูกสาวคนเล็กให้วุ่น มะนาวลูกใหญ่—พี่สาวคนโตกำลังวุ่นอยู่กับโทร. หาส้มโอ ซึ่งเป็นตำรวจประจำตระกูล
“น้องสาวคนเล็กฉันหายไป ทิ้งไว้แต่จดหมายลาตาย ฮือๆ ช่วยฉันด้วยคุณตำรวจ”
“ไม่เป็นไร น้องคุณต้องไม่เป็นไร ตั้งสติและฟังผม น้องคุณออกจากบ้านไปเวลากี่โมง นำอะไรติดตัวไปบ้าง เห็นเธอครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”
“มะนาวคนใช้เห็นเธอเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว และนอกจากจดหมายลาตาย ห้องของเธอทุกอย่างยังวางไว้เหมือนเดิม แม้แต่ฮัลโหลคิตตี้ตัวโปรด เธอก็ไม่เอาไป”
“เอาล่ะ เธอคงหนีไปไม่ไกลจากสวนมากนัก เราจะส่งกำลังสืบค้น ได้ข่าวแล้วจะรีบโทร.หา
ในทันใด มะนาวลูกสาวคนโตก็เห็นใบมะกรูดซึ่งถ้าไม่ดมกลิ่นก็ไม่แยกไม่ออกระหว่างใบมะนาวกับใบมะกรูด มันเขียนไว้ว่า “เจอกันที่สะพานข้ามแม่น้ำขุน”
พลันเมื่อเห็นข้อความ มะนาวพี่สาวก็รีบต่อสายตรงไปยังมือถือของนายตำรวจส้มโอ
“สะพานข้ามแม่น้ำขุนค่ะ สะพายข้ามแม่น้ำขุน”
“เอาล่ะ คุณมะนาว ฟังผมนะ ตั้ง-สะ-ติ แล้วพูดใหม่ รวบรวมประเด็น บอกที่มาที่ไปด้วย ผมจะได้รู้เรื่อง”
“ฉันพบจดหมายนัดพบ น่าจะเป็นจากมะกรูดล่ำบึ้กที่เคยปลอมตัวเป็นมะนาวลอบข้ามดินแดนมาที่งานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ของตระกูลเรา จากนั้นแม่มะนาวลูกเล็กก็รบเร้าอยากไปชายแดน บางครั้งก็พูดแปลกๆ ว่าทำไมมะกรูดบางลูกหน้าตาเหมือนมะนาว แล้วทำไมเขาถึงไม่ได้เป็นสายพันธุ์เดียวกันกับเรา พวกเราจึงสั่งห้ามแม่มะนาวลูกเล็กพบนายมะกรูดเด็ดขาด ดิฉันสงสัยว่าน้องสาวของดิฉันจะหนีตามลูกชายคนโตของบ้านตระกูลมะกรูด ค้นห้องก็พบใบมะกรูดพร้อมข้อความ “เจอกันที่สะพานข้ามแม่น้ำขุน” แน่ๆ พวกเขาต้องอยู่ที่นั่น และกำลังทำอะไรสักอย่าง”
“งั้นอีก 15 นาที คุณมาพบผมที่นั่น เราจะหาร่องรอยและหลักฐานด้วยกัน”
“ตกลงค่ะ”

เมื่อมาถึงจุดหมายในเวลานัดพบ คุณตำรวจส้มโอรอท่าอยู่ พร้อมๆ กับกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ
“พบอะไรบ้างคะ คุณตำรวจ”
“ริบบิ้นสีชมพูลายจุดขาว และหูกระต่ายลายขวางสีเทาสลับขาว วางไว้คู่กันตรงนั้น” ส้มโอชี้ไปที่เฉลียงสะพาน
“แน่ๆ ว่าริบบิ้นเป็นของน้องสาวฉัน ส่วนหูกระต่ายฉันไม่แน่ใจ”
“ของคุณชายมะกรูด” สะระแหน่ที่เดินเข้ามา กล่าวอ้าง
“กระผม พันตำรวจตรีสะระแหน่ แห่งรัฐมินต์ กำลังสืบหาการหายตัวไปของคุณชายมะกรูด ผู้สืบทอดมรดกของตระกูลรุ่นที่ 15 ขอความกรุณาให้ความร่วมมือ นี่คือการช่วยเหลือระหว่างรัฐกับรัฐ
“แล้วทำไมผมถึงต้องยอมเจรจาความร่วมมือกับคุณ”
“นั่นเพราะเรามีจุดประสงค์เดียวกันคือ ตามหาลูกหลานของเรา ผมขอต่อสายไปยังผู้บังคับบัญชาสักครู่”
“เราต้องการคำตอบโดยเร็ว เพราะขณะนี้พลเมืองของเรากำลังเดินทางมายังที่นี่”
หลังจากเจรจาตกลงกับผู้บังคับบัญชาอย่างรวดเร็ว ไพร่พลชาวซีตรัสก็เร่งรุดมายังสะพานที่เกิดเหตุเช่นกัน
“ทางรัฐของเราเห็นว่า การดำเนินการสืบหาลูกหลานควรเป็นไปพร้อมกันทั้งสองฝ่าย ตรวจสอบซึ่งกันและกันได้ โดยแต่ละรัฐแบ่งกำลังไพร่พลเป็นสองส่วน ส่วนละเท่าๆ กัน ตั้งแถวตรง 2 แถว ซึ่งรวมแล้วจะมี 4 แถว จากนั้นยุบให้เหลือสองแถวโดยการสลับไพร่พลหนึ่งเว้นหนึ่ง เพื่อเดินไล่เรียงตามแม่น้ำทั้งสองฝั่ง ท่านเห็นเช่นไร”
“ตกลงตามนั้น กลยุทธ์ของท่านใช่แผนที่โง่เขลาจนเกินไป เรามีเวลาไม่มาก กระทำการโดยเร่งด่วน”
สองชั่วโมงผ่านไป กำลังพลของทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันตลอดทาง แต่แล้ว...
“ได้กลิ่นอะไรไหม เหมือนกลิ่นมะกรูด” ยูซุผู้รับกลิ่นเป็นเลิศทำจมูกฟุดฟิด
จากนั้นพลเมืองก็ในละแวกใกล้เคียงก็สอดส่ายสายตามาทางเดียวกัน หากว่าคาลาแมนซีสอดส่องรวดเร็วฉับไวตะโกนเสียงแสบรูหู
“นั่นๆ นั่นไง ยายมะนาว”
ในเบอร์กาม็อตต้นสูงโน้มตัวกวาดต้อนลูกมะกรูดและมะนาวที่ลอยเกยกิ่งไม้ขึ้นฝั่ง สเปียร์มินต์ผายปอดให้มะกรูด ส่วนมะนาวพี่สาวก็ผายปอดให้น้องเล็ก
“แค้กๆ” มะนาวสำลัก โดยมีคนในตระกูลร่ำไห้กลัวว่าลูก-น้องสุดน่ารักจะตายปริ่มใจจะขาด
“พร่วด” มะกรูดอาเจียนออกมาเป็นน้ำ ตระกูลมะกรูดส่งกลิ่นตัวรุนแรงกระจายความแค้น เปล่งตัวเขียวปั้ด
“งั้นเราพาผู้คนทั้งสองรัฐกลับบ้านเถอะ” ตำรวจส้มโอตะโกนบอก
“ข้าไม่ยอม พวกเจ้ามันเลว ทำตระกูลข้าเสียชื่อเหลือเกิน พวกเจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต ด้วยชีวิต” ปู่มะนาวถือไม้ตะพดเคาะลงบนพื้น
“ทำยังกับพวกข้าไม่เสื่อมเสีย ตระกูลมะกรูดไม่เคยด่างพร้อย และถ้าหลานสาวเจ้าไม่สมัครใจ ใยจึงตามหลานข้ามา ถ้าเจ้าจะฟ้อง ข้าจะฟ้องเจ้าด้วยเช่นกัน ข้อหาหมิ่นประมาท ข่มขู่ คุกคาม” ท่านทวดมะกรูดที่นั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้าสั่งการ
เมื่อทั้งสองเจรจาความไม่ได้ เป็นอันว่า ทั้งสองตระกูลส่งฎีกาขึ้นศาลระหว่างรัฐ ระหว่างรอขึ้นศาลนั้นเอง
“คุณปู่ขาอย่าทะเลาะเอาความกันเลยนะคะ คะคานกันไปใช่ว่าจะได้อะไรขึ้นมา”
“ข้าจะเอาน้ำมะกรูดออกจากหัวมัน กำเริบเสิบสานดีนัก”
“ได้โปรดเถอะ ถ้าคุณปู่ทำเช่นนั้น หลานก็ไม่รู้จะมีชีวิตแล้งน้ำไปทำไม”
“หลายเอย ปู่จะสอนเจ้าให้ เจ้าจงสำนึกว่าเจ้าเป็นมะนาว เกิดในตระกูลสูงศักดิ์ และบรรพบุรุษเจ้าปลูกฝังไว้อย่างไร เจ้าจงสำนึก”
“คุณปู่แล้งน้ำใจ คุณปู่ใจร้าย” แล้วแม่มะนาวลูกเล็กก็กระเด้งกลับกิ่ง กระฟัดกระเฟียดเอาแต่ใจ นำใบคลุมผลไว้มิด
พี่เลี้ยงตามนำอาหารเสริมและน้ำส้มแมนดารินของโปรดมาให้ถึงที่
“หนูไม่กินค่ะ”
“ไม่กินไม่ได้นะคะคุณหนู คุณหนูเพิ่งฟื้นจากการจมน้ำ ท้องยังว่าง กินอะไรสักหน่อยเถอะค่ะ”
แล้วมะนาวลูกเล็กก็นึกแผนการอะไรขึ้นได้
“พี่มะนาว หนูมีเรื่องขอร้อง ช่วยเห็นแก่ความรักของหนูเถอะ พี่จงช่วยหายาพิษแบบที่จูเลียตดื่ม ซดแล้วตายไม่กี่ชั่วโมง หนูจะขู่คุณปู่ด้วยความตาย”
“มันอันตรายนะคะ เสี่ยงด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะหนูตายแค่แป๊บเดียว ไม่มีใครว่าใครกล่าว คุณปู่จะได้ยอมความ หนูไม่อยากเห็นสองตระกูลทะเลาะกันอีกแล้ว”
“แต่คุณหนูคะ”
“ไม่มีแต่ค่ะ”

ในวันขึ้นศาล พลเมืองจากทั้งสองรัฐมาร่วมฟังคำพิพากษาหนาแน่น ขาดแต่แม่มะนาวลูกเล็กที่เอาแต่ใจไม่ยอมออกจากกิ่งและพี่เลี้ยงที่เฝ้าดูแลอย่างกระชั้นชิด
“เอาล่ะ การพิพากษาของศาลครั้งนี้ เนื่องจากหาผู้พิพากษาตัดสินไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องเชื้อชาติและสายพันธุ์ ดังนั้น เราจึงของใช้ประชามติร่วมโหวต นับใบมะกรูดและใบมะนาวที่หย่อนลงในกล่อง เลือกได้เพียงหนึ่งใบต่อหนึ่งท่าน ใครได้คะแนนมากที่สุดฝ่ายนั้นได้รับความชอบธรรม ลงโทษอีกฝ่ายได้ 1 ข้อ (ศาลจะพิจารณาว่าการลงโทษนั้นสมควรแก่เหตุหรือไม่อีกที) หลังจากได้ยินเสียงนกหวีด การแข่งขันเป็นอันเริ่ม”
ปี๊ดดดด...
คูหามีหลายคูหาทำให้การลงคะแนนเป็นไปอย่างราบรื่น แน่ที่สุดงานนี้ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใคร เนื่องจากพลเมืองของแต่ละรัฐคัดผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนมารัฐละ 1,000 ราย วัดกันว่าฝ่ายไหนจะออกมาใช้สิทธิใช้เสียงมากกว่ากัน

ที่บ้านตระกูลมะกรูด
“เจ้านายครับท่านไม่ออกไปฟังผลหรือขอครับ” มะกรูดรูปทรงบูดเบี้ยว จากรูปพรรณสัณฐานแล้วบ่งบอกว่าเขาเป็นมะกรูดในวรรณะไพร่
“อย่ามายุ่งกับเรา เรากำลังกลุ้ม”
“แต่ท่านพ่อท่านแม่กำชับหนักแน่น...” ยังไม่ทันที่มะกรูดไม่มีวาสนาจะอ้าปากพูดต่อไป มะกรูดทายาทคนโตที่อดอาหารจนเปลือกแข็งโปนก็จ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง
“ยังไงข้าก็ไม่ฟังคำตัดสินของศาลอะไรทั้งนั้น ข้าจะไปพบมะนาวลูกเล็ก”
มะกรูดอัปลักษณ์สั่นสะท้าน ถามอึกอัก “ท่านจะ จ่ะ ท่ะ ทะ ทำอะไรหรือค่ะ เค่อ ครับ”
“ข้าจะทำในสิ่งที่คนไม่มีหัวใจมิอาจทำได้”
และแล้วเขาก็เร่งรุดไปบ้านมะนาว ทว่าภายในลำต้นสูงสูงใหญ่ ไม่มีมะนาวหลงเหลืออยู่สักลูก เมฆดำทะมึนเข้าปกคลุมเฉพาะต้นมะนาว เขาหรี่ตามองดวงอาทิตย์สีเทาเหนือเมฆ หูแว่วได้ยินว่าลางร้ายมาเยือนซะอ่ะอ้ะแล้ว จึงรีบกระเด้งกระโดดอย่างเร็วสุดชีวิต เหงื่อซึมทั่วผล ส่งกลิ่นร้ายกาจ

ที่ศาล, 997/995 เสียง
ฝ่ายมะนาวเป็นผู้ชนะ
แล้วท้องฟ้าที่สลัวก็เจิดจ้าอย่างรวดเร็ว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ในที่สุดชัยชนะก็อยู่ในมือของข้า ในเมื่อข้าชนะ ข้าขอสาปให้ตระกูลเจ้าเป็นโรคผิวหนังทั้งตระกูล และห้ามคนในตระกูลเจ้าผสมพันธุ์กับไพร่พลในตระกูลของข้าเป็นอันขาด มิฉะนั้นก็ขอให้พวกเจ้าสูญพันธุ์ไปในพริบตา” คุณปู่มะนาวพูด
“ศาลจากรัฐมินต์และรัฐซีตรัสเห็นพ้องต้องกัน ถือคำพิพากษานี้เป็นสำคัญจากนี้เป็นต้นไป”
ทันใดนั้นทุกคนในตระกูลมะกรูดก็มีผิวพรรณตะปุ่มตะป่ำน่าเกลียด
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ช้าก่อน คุณปู่ขา หนูรักมะกรูดค่ะ ได้โปรดให้หลานแต่งงานกับมะกรูดด้วยเถอะนะคะ เขาอัปลักษณ์แค่ไหนหลานก็รักเขา” มะนาวลูกเล็กเด้งดึ๋งๆ กราบเท้าคุณปู่
“คำตัดสินจากศาลไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ อย่าทำให้กฎหมายบ้านเมือง เป็นไม้หลักปักเลน คำพิพากษาจะอยู่ต่อไปจนสิ้นอวสานโลก”
“งั้นหนูก็ขอตายเสียดีกว่า” แม่มะนาวลูกเล็กหยิบขวดยาพิษจริง ซดรวดเดียว
“คุณหนู คุณหนูของนม” มะนาวแม่นมร้องไห้ยิ่งกว่ามะนาวตัวแม่ผู้จองหอง
กว่ามะกรูดจะตามมาถึงศาล แม่มะนาวคนรักก็สลายกลายเป็นกรดเสียแล้ว
“ไม่ ไม่จริง ทำไมเจ้าถึงทิ้งพี่ไป ไม่รอพี่เลยเล่า แม่มะนาวลูกเล็ก เจ้าไม่รู้รึว่าเราเป็นพืชพันธุ์พิเศษที่มีความรักเป็นเครื่องบำรุงจิตใจ ผู้อื่นผู้ใดหามีไม่ เจ้าล้มหายตายจาก แล้วข้าจะอยู่เช่นไร ขอให้ศาลพิพากษาข้าเถอะ ข้าทำผิดบาปกับมะนาวลูกเล็กผู้เป็นเมีย ศาลจงลงโทษพิจารณาข้าตามแต่สมควร”
“เจ้าควรตายซะ ควรตายเดี๋ยวนี้” คุณปู่มะนาวคำราม
“จากนั้นลูกหลานก็ร้องประท้วงเป็นเสียงเดียวกัน“ตายซะ ตายเดี๋ยวนี้”
“ไม่!!! ลูกชายข้าไม่ผิด เจ้าบอกเขาไปสิ ว่าเจ้าไม่ได้มีอะไรกับมะนาวเป็นกรด”
“ข้ามิอาจเป็นคนลวงโลกโกหกใครต่อใครได้ ทั้งๆ ที่คนรักเสียสละให้ความรักมากมายเช่นนี้ ท่านพ่อ โปรดให้อภัยที่ข้าเป็นลูกอกตัญญู ข้าขอยอมรับผิดโดยการยืนตากแดดเคียงข้างร่างสลายของมะนาวลูกเล็กจนกว่าร่างกายข้าจะแห้งเหือดรวมเป็นธุลีดินกับหญิงคนรัก”
ศาลทั้งสองรัฐขอพิพากษาดังตามความประสงค์ของมะกรูด ผู้ยึดความรักเป็นสรณะ โดยห้ามมิให้มีใครทักท้วง
ความโศกเศร้าและซาบซึ้งในความรักเข้าคลอบคลุม เสียงร้องไห้ระงมทั่ว
ญาติพี่น้องของนายมะกรูดต่างเว้าวอนให้เลิกล้มความคิด หากว่า 20 วันถัดมา มะกรูดทายาทตากแดดที่ลานกลางแจ้งจนแห้งเกรียม
และจากนั้นต่อไปคณะนิติบัญญัติ อันประกอบด้วยวิปฝ่ายค้าน ผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาของทั้งสองรัฐทำข้อตกลง เขียนบทบัญญัติ ข้อกฎหมายกันขึ้นใหม่ ให้ไพร่พลทั้งสองรัฐอยู่กันอย่างมีความสมานฉันท์
เรื่องราวความรักของมะกรูดและมะนาวจึงกลายเป็นประวัติศาสตร์ความรักอันยิ่งใหญ่ รวมกระทั่งส่งผลเปลี่ยนแปลงระบอบการเมือง
2 ปี ให้หลัง ประธานาธิบดีคนแรกแห่งไร่กลิ่นรสสร้างอนุสาวรีย์แห่งความรักนี้ให้เป็นอนุสรณ์แห่งความรัก ภายในรอบรั้วรัฐสภาที่ถูกยุบเหลือเพียงหนึ่งเดียวและยกเลิกกฎหมายการแบ่งแยกดินแดน
ภายหลังจึงมีไพร่พลขอพรความรักจากอนุสาวรีย์แห่งนี้มากมาย เชื่อกันว่าใครที่บูชาเจ้าพ่อมะกรูดและเจ้าแม่มะนาวผู้นั้นจะได้แต่งงานและมีบุตรบริวารเต็มบ้านเต็มตระกูล

บอกฉันบอกเธอ
เมื่อกล้าที่จะรักสิทธิผู้อื่นเท่ากับของตัวเอง เมื่อนั้นความสงบสุขจึงมาเคาะประตูเยือน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น