วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

ซีรีส์ปริศนาลับเจ้าชาย Ukhow

ตัวละคร
เท็ดดี้—หนุ่มนักเรียนนอก ลูกครึ่งไทย-อมริกัน-จีน ทายาทเศรษฐีธุรกิจน้ำมันในเมืองจีน ผู้เรียนเก่งที่สุดในภาควิชาปรัชญาและวรรณคดีจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน นอกจากนี้ยังหน้าตาดี ขาว-หล่อ-ตี๋ แถมยังเป็นเพลย์บอยที่เดตกับสาวๆ คนดังทั่วรัฐนิวยอร์ก พักการเรียนหนึ่งปีเพื่อเดินทางมาเมืองไทย ลงทุนทำธุรกิจการเกษตรกับเพื่อนสมัยไฮสคูล พร้อมทั้งเป็นนายแบบให้นิตยสารชื่อดัง จนจิลล์คิดว่าเขาเป็นพวกสมองกลวง แต่ที่จริงแล้ว เขาคือUknow ชายในฝันที่จิลล์ฝันหา

จิลล์—สาวโบฮีเมียนที่เฉิ่ม เชย หน้าตาพื้นๆ ฐานะทางบ้านจนสุดๆ แถมยังกู้เงินจากรัฐบาลเรียนวิชาปรัชญาและวรรณคดีในมหาวิทยาลัยรัฐบาลไทย แทนที่จะเรียนวิชาบริหารธุรกิจเพื่อสร้างความร่ำรวยแก่เธอ จิลล์ทำงานที่ร้านขายขนมเค้กใต้ตึกที่เท็ดดี้ทำงาน พร้อมๆ กับเรียนไปด้วย เธอปฏิญาณว่าจะไม่รักใครจนกว่าจะพบคนที่หล่อ ฉลาด นิสัยเอื้ออารี และที่สำคัญต้องรักเธออย่างที่เธอเป็น ถ้าเธอไม่พบคนนั้น เธอจะตัดสินใจบวชตลอดชีวิต

คริสตี้—เจ้าของร้านขนมเค้กวัย 18 ปี นักเรียนไฮสคูลโรงเรียนอินเตอร์ชั้นปีสุดท้าย กำลังเปิดธุรกิจความงามจากเกาหลี และส่งคนไปศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี อยากเป็นแฟนเท็ดดี้ตั้งแต่ที่ยังไม่รู้ว่าเท็ดดี้รวย จึงกลั่นแกล้งจิลล์ต่างๆ นานา เพื่อที่จะไม่ให้เท็ดดี้จีบจิลล์สำเร็จ

อาจารย์กุ๊กกู๋—อาจารย์ที่ปรึกษาของจิลล์และเป็นรุ่นพี่ของเท็ดดี้ที่พรินซ์ตัน เป็นคนเชื่อมโยงหัวใจให้จิลล์กับเท็ดดี้รักกันอย่างลับๆ
อเคมิส—เพื่อนสนิทจิลล์ที่มหาวิทยาลัย เขาเป็นผู้ชายที่พาจิลล์เข้าวัดยามที่จิลล์มีปัญหา เป็นเพื่อนแท้ของจิลล์

ธุลี—เพื่อนสมัยไฮสคูลของเท็ดดี้ ดำ ร่างใหญ่และไม่หล่อ เป็นไม้เบื่อไม้เมากับคริสตี้ แต่สุดท้ายก็รักกัน เขาเลิกเรียนหนังสือหลังจากจบไฮสคูลจากอเมริกา กลับบ้านมาช่วยพ่อแม่ทำฟาร์มวัวฟาร์มควายที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมๆ กับพัฒนาพืชผลทางการเกษตรไทยร่วมกับเท็ดดี้เพื่อส่งออกทั่วโลก

เรื่องย่อ

ระหว่างที่เท็ดดี้เดินทางมามหาวิทยาลัยที่จิลล์เรียน เพื่อมาหาอาจารย์กุ๊กกู๋ เขาเผลอขับรถชนจิลล์ที่ลานจอดรถ ทำให้เสื้อผ้าสไตล์โบฮีเมียนที่เก่าแสนเก่าขาดจนเห็นร่องอก ทำให้เธออับอายและร้องแรกแหกกระเชอให้เท็ดดี้รับผิดชอบโดยการจ่ายเงินค่าสินไหมให้ แต่เท็ดดี้กลับไม่สนใจ โยนเสื้อมียี่ห้อที่เก็บไว้ในรถให้เธอใส่แทน แล้วก็เดินจากไป สร้างความคับแค้นใจให้กับจิลล์เป็นอย่างมาก จนกระทั่งเธอไปที่ศาลหลวงปู่เง็งตี๊ง เพื่อขอพรให้เจอเท็ดดี้อีกครั้ง เพื่อจะได้แก้แค้น ที่นั่น จิลล์ก็ได้พบกับคริสตี้ที่มาไหว้พระขอพรขอให้กิจการร้านขนมเค้กเจริญรุ่งเรือง และมาขอฤกษ์ดีเปิดกิจการความงามกับหลวงพ่อ คริสตี้เห็นจิลล์ร้องไห้ฟูมฟาย ดูจนๆ อย่างกับคนจรหมอนหมิ่น จึงหยิบยื่นน้ำใจให้เศษเงินสองร้อยบาท แต่จิลล์กลับไม่รับ บอกว่าตัวเองเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยไม่รับเงินจากเด็กมัธยมฯ แม้จะจนแต่ก็มีศักดิ์ศรี ทำให้คริสตี้เห็นคุณค่าในตัวจิลล์ อยากให้มาดูแลร้านเค้กที่อีกหน่อยหล่อนจะไม่ค่อยได้ดูแล เพราะกำลังจะเปิดธุรกิจใหม่ คริสตี้เสนองานให้จิลล์ จิลล์ขอบคุณและรับไว้อย่างซึ้งใจ ที่ร้านของคริสตี้ จิลล์ได้รู้จักกับธุลีที่มาเป็นลูกค้าประจำ พร้อมกับเท็ดดี้ที่มาพร้อมกันสม่ำเสมอ จิลล์จึงนึกถึงคำอธิษฐาน และพยายามแก้แค้นเท็ดดี้คืน ด้วยการชงกาแฟไม่อร่อยและเสิร์ฟเค้กที่ชิ้นเล็กกว่าปรกติให้ทุกๆ วัน จนกว่าจะหายแค้นใจ แต่แล้วกลับเกิดเรื่องวุ่นวายต่างๆ นานาและทุกครั้งจิลล์คือผู้ผิด คริสตี้ก็จะคอยกลั่นแกล้ง และทุกครั้งเช่นกันที่จะมีมือที่มองไม่เห็นจากคนที่ชื่อ Uknow คอยช่วยเหลือ จิลล์จึงกลับไปไหว้ศาลหลวงปู่เง็งตึ๊งอีกครั้ง เพื่อขอพรให้พบกับUknow จิลล์เสี่ยงเซียมซี คำทำนายบนเซียมซีบอกเล่าอนาคตไว้อย่างแม่นยำและเป็นปริศนา แล้วทุกๆ อย่างในคำทำนายต้องใช้ความรักคลายปมปริศนา

บทนำ

“I know you are not busy, let’s take a break. How long we have ever met. Four year!!!”
ให้เสียงซับไตเติ้ลไทยได้ว่า ผมรู้ว่าคุณไม่ยุ่งหรอก พักสักครู่เถอะ นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน ตั้งสี่ปีแน่ะ!!!
ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงไทยตอบกลับมาว่า “มาที่ร้านกาแฟใต้คณะฉัน มีมุมม้าหินอ่อนน่านั่งเล่นรอคุณอยู่” แล้วสายก็ตัดไป
เอี๊ยด!!! ปึ๊ก!!!
เหมือนมีก้อนกลมๆ อะไรสักอย่างโดนไฟหน้ารถ เท็ดดี้ลงจากรถดูเหตุการณ์
“โฮ่ะ! นึกอยู่แล้วว่าต้องเป็นพวกคนรวยๆ ตัวขาวๆ ขับรถไม่ระมัดระวังคนเดินเท้า เนื้อคนนะคู้ณ ไม่ใช่เหล็กจะได้มีกันชนไว้กันพวกคนไม่ระมัดระวังขับรถชุ่ยๆ ชนได้เล่นๆ ถือว่าอ็อปชั่นเยอะ แล้วจะคิดว่าตัวดีกว่าทุกคนหรือไง ฉันมีสิทธิบนถนนเหมือนกัน ไม่ใช่ถือว่ามีรถแล้วจะไม่รอบคอบ ขับรถไป คุยโทรศัพท์ไป ใจลอยล่ะสิ ถ้าโลกนี้มีแต่พวกไม่รับผิดชอบอย่างคุณ จะมีกฎเกณฑ์ กฎหมายไว้ทำม๊าย” จิลล์นั่งจ้ำเบ้าบ่นอีกฝ่ายกลางพื้นถนนลานจอดรถ
เท็ดดี้หรี่ตาที่ตี่อยู่แล้ว มองที่กลางอกของอีกฝ่าย
‘อีตานี่บ้าแน่ๆ ฉันด่าเป็นชุดแล้วยังมองอยู่ได้ ไม่บ้าก็ซื่อบื้อ เอ้า!!! เชื่อแกงไก่ร้านอาหารปักษ์ใต้ใต้คณะกินได้เลย แต่ตอนนี้ฉันแอ๊บเจ็บอยู่ แอบเอาขาถูกับพื้นให้ถลอกๆ ดีกว่า’
“โอ๊ย เจ็บขาจัง” จิลล์บ่นพร้อมทำหน้าตาเจ็บกว่าเจ็บจริงยี่สิบเท่า
‘เจ็บก็แล้ว ทำตาขุ่นขนาดนี้ก็แล้ว (ให้จินตนาการถึงสายตาที่แม่ดุคุณเวลาสอบตก) เขายังทอดสายตากระลิ้มกระเหลี่ยอยู่ได้ หน้าตาฉันก็เหมือนคนขายตั๋วหนังที่หาได้ถมเถตามโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ กระโปรงก็ยาวเชยสะบัด ไม่เห็นขาขาวๆ ของฉันหรอกจะ มองอะไรย๊ะ’
เท็ดดี้เพิ่งนึกได้ว่าต้องอาย จึงหันหน้ามองไปทางอื่น เขาเดินกลับไปที่รถแวนสีบลอนด์ หยิบเสื้อยืดผ้าเนื้อดีจากท้ายรถให้จิลล์ แล้วเดินจากไป
“โว้ย! หยุดก่อน นายน่ะ จะไม่รับผิดชอบฉันใช่ไหม” จิลล์ตะโกนและกำลังจะวิ่งตามไปแต่ก็พบว่า ในมือมีเสื้อของเขาอยู่ เขาจะให้มาทำไมนะ ในเมื่อก็ใส่เสื้อที่แม่ซื้อให้เมื่อสิบปีที่แล้วอยู่นี่นา
“เธอ ทำไมไม่ใส่เสื้อซะล่ะ นี่มันในมหาวิทยาลัยนะ” ใครไม่รู้ที่กำลังเดินผ่านสะกิดบอกจิลล์
‘ฉันพบว่าเสื้อติดกระดุมหน้าของฉัน เม็ดกระดุมร่วงระนาว เห็นร่องอกขาวๆ และนมใหญ่เบิ้มที่ฉันต้องใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ อำพรางไว้เสมอ เพราะความเชื่อที่แม่ฉันปลูกฝังว่า คนนมใหญ่จะไม่ฉลาด คนนมเล็กสิ ถึงมีมันสมองเหมือนผู้ชาย ฉันไม่อยากเหมือนผู้ชาย และก็ไม่อยากโง่ด้วย ก็เลยใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ ไว้จะได้ไม่มีใครรู้ไซส์รอบอก 36 คับซีของฉัน แต่แล้วกลับเป็นไอ้หนุ่มหน้าแมวที่ไหนก็ไม่รู้ เห็นอกขาวๆ ที่ใหญ่เกินพิกัดจนได้ แงๆๆๆๆ’
พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยลูกด้วย!!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น